คุณกำลังมองหาแนวทางการรักษาบำบัดโรคหรือปรับสมดุลร่างกายอยู่หรือเปล่า? วิถีชีวิตของคนเราในปัจจุบันนี้ห่างไกลจากธรรมชาติมากขึ้นและมีปัญหาความเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ มากมาย ทั้งโรคทางกายและโรคทางใจ หลายคนที่เกิดความเจ็บป่วยแล้วก็มักจะหาหนทางในการรักษาด้วยยาหรือแพทย์แผนปัจจุบัน แต่อาจมองข้ามการรักษาหรือการเยียวยาบำบัดเพื่อช่วยฟื้นฟูสุขภาพกายใจแบบธรรมชาติไป จีได้มารู้จักการทำ Grounding ก็ในตอนที่ร่างกายและจิตใจเจ็บป่วยทรุดโทรมจนถึงจุดต่ำสุด รักษาด้วยยายังไงก็ไม่หาย วิธีการ Grounding หรืออ่านว่า กราวน์ดิ้ง ซึ่งเป็นการช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ยอดเยี่ยม แต่คนเรากลับไม่ค่อยรู้และไม่ค่อยได้ทำกัน ทั้ง ๆ ที่มันดีต่อสุขภาพของตัวเราเองและในทางการแพทย์ก็ใช้เป็นแนวทางในการรักษาแบบบูรณาการหรือฟื้นฟูเยียวยาสุขภาพกัน โดยเฉพาะในต่างประเทศ  Grounding คืออะไร? มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไร? ลองอ่านบทความนี้ดูนะคะ

Grounding คืออะไร?

Dr. Stephen T. Sinatra แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโรคหัวใจที่ให้ความสำคัญกับการรักษาแบบบูรณาการมากว่า 30 ปี เขาก่อตั้ง Heart MD Institute เพื่อให้ความรู้เชิงบูรณาการาในการดูแลรักษาคนไข้โรคหัวใจ ซึ่งหนึ่งในวิธีบูรณาการร่างกายที่เขาให้ความสำคัญมาก ก็คือ การทำ Grounding เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เขาได้อธิบายเกี่ยวกับความหมายของ Grounding  กระบวนการและประโยชน์ของมันไว้ว่า

พื้นโลกเปรียบเสมือนกับแบตเตอรี่ขนาดมหึมาที่หมุนรอบดวงอาทิตย์ มีพลังงานที่เต้นเป็นจังหวะผ่านผิวโลกออกมา ซึ่งเรามองไม่เห็น แต่มันเป็นแหล่งที่ให้อิเล็กตรอนอย่างไม่มีขีดจำกัด เนื่องจากมันได้รับการกระตุ้นและเติมเต็มจากดวงอาทิตย์ ฟ้าผ่า และสนามพลังงานที่เกิดจากแกนแม่เหล็กโลกอย่างสม่ำเสมอ พื้นโลกปล่อยอิเล็กตรอน (ประจุลบ) ออกมาที่พื้นผิวโลกและมหาสมุทร ลักษณะธรรมชาติของการชาร์จประจุไฟฟ้าระหว่างดวงอาทิตย์กับโลกใบนี้ ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตทุกชนิดซึ่งเป็นเครื่องจักรชีวะไฟฟ้า ทำงานตามจังหวะธรรมชาตินี้อย่างสมดุลเมื่อเชื่อมกับพื้นโลก (ดวงอาทิตย์-โลก-สิ่งมีชีวิต)

แต่วิถีชีวิตในปัจจุบันของมนุษย์เรานั้น ทำให้สูญเสียการเชื่อมต่อกับพื้นโลกเพื่อรับอิเล็กตรอนนี้ไป ซึ่งจะเห็นได้ว่าเราแทบจะไม่เดินเท้าเปล่าสัมผัสกับพื้นดินเพื่อปล่อยให้พลังงานไฟฟ้า (อิเล็กตรอน) ไหลผ่านร่างกายเราเลย ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นสาเหตุที่ถูกมองข้ามของโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นกับมนุษย์เราในปัจจุบันนี้

เมื่อใดที่เท้าของเราสัมผัสกับพื้นดิน มีการถ่ายเทอิเล็กตรอนจากพื้นดินเข้าสู่ร่างกาย ก็จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการทางสรีระวิทยาในร่างกายทันที ดังนั้นยิ่งร่างกายได้สัมผัสกับพื้นดินนานเท่าไหร่ ก็จะยิ่งได้รับประโยชน์ต่อสุขภาพมากเท่านั้น เพราะอิเล็กตรอนที่ได้รับจากพื้นดินจะช่วยให้กระบวนการเมตาบอลิซึม (Metabolism) สมดุลขึ้น (เมตาบอลิซึม (Metabolism) คือ กระบวนการทำให้ร่างกายทำงานได้ปกติ ช่วยรักษาสมดุลของภาวะต่างๆ ในร่างกาย อีกทั้งกระบวนการนี้สามารถย่อยสารอาหารและน้ำให้กลายเป็นพลังงานได้ ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต่าง ๆ เพื่อนำพลังงานไปใช้ทำกิจกรรมต่างๆ)

สรุปสั้น ๆ  Grounding ก็คือ  การที่ร่างกายเราได้ถ่ายเทพลังงานและเชื่อมต่อกับพลังงานธรรมชาติเพื่อช่วยฟื้นฟูเยียวยาให้ร่างกายของเราสมดุล แข็งแรงและมีสุขภาพดีนั่นเอง

ประโยชน์ของการทำ Grounding

  1. ลดภาวะการอักเสบของร่างกายได้
  2. ช่วยลดอาการเจ็บปวดและช่วยเร่งการสมานแผลได้
  3. เพิ่มการผลิตเมลาโทนิน ช่วยให้คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น
  4. ลดความเครียด ทำให้การหลั่งฮอร์โมนความเครียดกลับสู่ภาวะปกติ
  5. ปรับสมดุลระบบประสาทอัตโนมัติช่วยให้ร่างกายและจิตใจสมดุลขึ้น
  6. ลดความหนืดของเลือด ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
  7. ปรับปรุงการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีขึ้น
  8. ป้องกันการสูญเสียความหนาแน่นของมวลกระดูก
  9. เพิ่มอัตราเมตาบอลิสซึม
  10. ส่งเสริมการทำงานของต่อไทรอยด์
  11. ลดความเสียหายของกล้ามเนื้อ เร่งการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อ
  12. ปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกันในยามที่ต้องตอบสนองต่อภาวะบาดเจ็บรุนแรง
  13. ปรับแตงตึงตัวกล้ามเนื้อให้สมดุล
  14. ลดอาการก่อนมีประจำเดือนและภาวะสะบัดร้อนสะบัดหนาวในวัยทอง
  15. ช่วยต้านความชรา

วิธีการทำ Grounding ที่นิยมกัน

1. เดินเท้าเปล่าบนพื้นดิน พื้นหญ้า พื้นทรายและกอดต้นไม้เพื่อรับพลังบริสุทธิ์จากต้นไม้ วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและนิยมทำกันเป็นส่วนใหญ่ ทางการแพทย์แผนปัจจุบันก็แนะนำค่ะ

2. นอนแช่น้ำทะเล เพราะเกลือทะเลจะช่วยปรับสมดุลประจุไฟฟ้าของระบบกายเนื้อและกายทิพย์ของเราได้ หรือถ้าไม่สะดวกที่จะไปทะเล ให้หาเกลือทะเลใส่ในน้ำอุ่นเพื่อแช่ตัวหรือแช่เท้าแทนได้

3. ทำสมาธิจินตนาการล้างพลังงานลบที่เรารับมาจากผู้คนหรือสิ่งต่าง ๆ ภายนอกและพลังงานลบที่เราสร้างขึ้นมาเองจากความรู้สึกคิดนึกคิดหรืออารมณ์ด้านลบ เพื่อถ่ายเทพลังงานลบเหล่านั้นไปสู่พระแม่ธรณี พร้อมกับรับพลังแห่งการบำบัดรักษาจากเบื้องบนและเบื้องล่างมาสู่ร่างกายเรา รวมทั้งส่งต่อพลังงานดี ๆ นั้นให้กับคนที่เรารัก ผู้คน สรรพสัตว์และสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ด้วย

4. ใช้คลื่นเสียงบำบัด เช่น คลื่นเสียงจากคลิสตัลโบว์ล (Crystal Bowl)  การฟังเพลงบรรเลง การร้องเพลงก็ได้เช่นกัน

5. Sun Gazing คือ การจ้องพระอาทิตย์ในช่วงแสงแดดอ่อน ๆ ตอนเช้าหรือตอนเย็น จะช่วยนำพาแสงสว่างมาสู่กายเนื้อและกายทิพย์ได้อย่างดี

6. ใช้ควันเสจ (Sage) ซึ่งเป็นสมุนไพรแห้งที่ใช้จุดขึ้นมาแล้วเอาควันมันเป่าใส่ตัวและวนให้ทั่วตัว

7. สวมใส่หินสีหรืออัญมณีสีดำและสีน้ำตาล ที่มีคุณสมบัติในการกราวน์ดิ้ง  เช่น Black tourmaline, Smoky Quartz, Bronzite เป็นต้น

จีรู้จักการทำ Grounding  ดังที่ได้กล่าวมาแล้วจากการได้เรียนรู้แนวทางการเยียวยากายใจและพัฒนาจิตวิญญาณของตัวเอง แล้วได้ทำมันมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวิธีแรกซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและทำได้บ่อย ๆ และวิธีที่ 3 ที่ทำทุกวัน ซึ่งมันส่งผลดีทั้งต่อสุขภาพร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาณของจีอีกด้วย หากใครกำลังมองหาวิธีที่จะช่วยให้สุขภาพดีของลองทำ Grounding ที่สะดวกและเหมาะสมกับตัวเองดูนะคะ

เครดิตข้อมูล : fatoutkey.com, Facebook : ภาพสวย/ธรรมชาติ/จิตวิญญาณ

All Photos by Pixabay.com

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม : ความลับของลมหายใจ (ที่คุณอาจไม่เคยรู้)

แอดไลน์เพิ่มเพื่อนแชทพูดคุยเพิ่มเติมกับจีได้เลยค่ะ

เพิ่มเพื่อน

2 COMMENTS

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here